น้องหมวย ตอนอวสาน

ปริณกะ : น้องหมวยตอนอวสาน

          ท้าวความเดิมในการปฏิบัติการ สไปเป้า สมีเอ้งไม่ได้ไป เนื่องจากลูกป่วย เย็นวันหนึ่ง สมีเอ้งนัดประชุม ที่เถียงนา ของพวก

เรา อาหารว่างี่เลี้ยงกันก็คือ GRILLED FISH และ Little red ant eggs salad สมีเอ้ง กินน้ำตาลเมา พร้อมทั้งเล่าประวัติ เจ๊กฮง เจ๊ก

ฮงแกย้ายมาจากถิ่นอื่น นานแล้ว พร้อมกับลูกสาวตัวเล็ก ๆ คนเดียว

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

ข่าวว่า เมียแกตาย แกเศร้าเสียใจมาก แกอยากลืมอดีต เลยย้ายมาอยู่คลองเรานี่แหละ โดยดำรงตัวเป็นโสด เสียสละความสุขส่วน

ตัว Single DAD ไม่ยอมมีเมียใหม่ เนื่องจากรักลูกสาวมาก กลัวกระทบกระเทือนจิตใจลูกสาว คือน้องหมวยของเรานั่นเอง เฝ้า

หวงและว่างใย อบรมน้องหมวย ให้เป็นคนดี แล้วมันผิดอะไรเล่า พวกเอ็งไปทำกับเขาอย่างนั้น สมีเอ้งกล่าวเสียงดัน พร้อม

กระแทกน้ำตาลเมา เข้าปากไปอีกครึ่งจอก พลันแกอ้างถึง คำประกาศอิสรภาพของอเมริกา Click โทมัส เจฟเฟอร์สัน ได้กล่าวไว้

ว่า เราถือว่าความจริงต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ประจักษ์แจ้งอยู่ในตัวเง นั่นคือมนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมา อย่างเท่าเทียมกัน และพระผู้

สร้างได้มอบสิทธิบางประการ ที่จะเพิกถอนมิได้ ไว้ให้แก่มนุษย์ ในบรรดาสิทธิเหล่านั้น ได้แก่ชีวิตเสรีภาพ และการเสาะแสวงหา

ความสุข Click เจ๊กฮงแกทำถูกต้องของแกแล้ว พวกเอ็งยังไปแกล้งแกอีก

           เอาแล้วสิไอ้หรั่งพูด สมีเอ้งเมื่อดีกรีได้ขนาด เป็นพูดไม่หยุดแน่ พลันสมีเอ้ง ลุกขึ้นยืน ขึงขัง อย่างแกนำทั้งหลาย แล้ว

พูดว่า เข้าใจสิทธิมนุษยชน Click หรือไม่

          ทิดกล่ำ หรือ ผู้พันกล่ำของเรา เจอเข้าไป สองดอก เต็ม ๆ แกทำหน้า สุดบรรยาย ไอ้หมี มองหน้าทิดกล่ำ แล้วกล่าวว่า หน้า 

แกมึนรึ๊บ เหมือนหมาหลงบนางด่วน

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

ทิดมา ว่า งานนี้ชักกล่อยแล้วว่ะ สมีเอ้ง แกยิ่งเมา แกยิ่งพูกมากน่ะ พวกเรารีบกลับบ้านกันดีกว่า งานเลี้ยงมีอันต้องเลิกรา

          ข้าวยังไม่ทัน่จะตั้งท้องเลย เหล่าสมาชิกผับเถียงนาของเรา ก็คาบข่าวมาบอกว่า น้องหมวยเข้ามหาลัยแพทย์ได้ โอ้ สร้าง

ความดีใจ ให้กับสมาชิกผับของเรา อย่างเต็มที่ พวกเราบางคนก็ไม่รู้ว่า แพทย์น่ะ แปลว่าอะไร ไอ้หรั่ง สวนโครมเลย แพทย์กับ

หมอน่ะ ความหมายเดียวกันโว้ย เป็นที่เข้าใจกัน เย็นวันนั้น เรื่องที่คุยกันมากมายก็คือเรื่อง น้องหมวย และอนาคตของน้องหมวย

และจะต้องรุ่งโรจน์ขนาดไหน เจ๊กฮง จะดีใจอย่างไร ส่วนพวกเราดีใจแทน เจ๊กฮง ด้วย แต่ในใจลึก ๆ ของบางคน คิดถึงการจากไป

ของน้องหมวย คิดถึงโอกาสในชีวิตของเด็ก วัยเทาน้องหมวย อีกมากมาย ที่ไม่เท่าเทียมกัน ในการศึกษา และโอกาส ที่จะได้กิน

ดี อยู่ดี อย่างหมอทั่ว ๆ ไป ที่่เราได้พบเห็นกันอยู่ น้องหมวยอาจจะมีโอกาส ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจ

จะกลับมาทำงานในไทย หรือไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเลย โอ้ ชีวิตคน ช่างผันแปรไป เป็นอนิจัง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน

แต่ในจิตสำนึกของุกคน ลึก ๆ แล้ว คิดน้อยเนื้อต่ำใจ ในบุญวาสนาของตัวเอง ที่มีฐานะสูงเกิน ต้นข้าวมาไม่เท่าไหร่ คือชาวนา ผู้

ต่ำต้อย เกิดมาคู่กับความยากไร้ อับจน อับปัญญา ถูกดูถูก ดูแคลน ผิดกับสมีเอ้ง ดูจะมีความสุข ขับลำนาเพลงล่องโขงต่อไป

          คืนนั้น พวกเราส่วนใหญ่ค้างที่ เถียงนา ลมทุ่งพัดอ่อน ๆ จนรู้สึกหนาว ไอ้หรั่ง ก่อกองไฟ ให้รู้สึกอบอุ่นขึ้น เสียงจั๊กจั่น กบ

เขียน ร้องกันระงบ มันไพเราะเหลือเกิน อากาศปลอดโปร่ง โล่งสบาย เห็นดาวอยู่เต็มฟ้า แล้วพวกเราส่วนมาก ก็หลับไป บางคนก็

ลงอาบน้ำ ใกล้เถียงนานั่นแหละ ดูสดชื่นพิลึก ใคนะ จะมีความสุขเหมือนพวกเรา บางคนติด

          ใกล้จะเกี่ยวข้าวแล้ว แว่วข่าวว่าน้องหมวยต้องไปอยู่หอ จะกลับบ้านทุกเสาร์อาทิตย์ และในอาทิตย์หนึ่ง พวกเราทั้งเถียงนา

เกือบสิบคน รวมทั้งสมีเอ้งด้วย ไปพร้อมหน้าพร้อมตา ที่ร้านเจ๊กฮง โดยมิได้นัดหมาย ก็เพื่ออยากจะพบน้องหมวย

 

ขอขอบคุณภาพใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่

 

แน่นอน ก็ต้องไต่ถามสารทุกสุขดิบ ของน้องหมวย น้องหมวยเธอก็ โอภาปราศัย กับพวกเราอย่างดียิ่ง

ส่วนแจ๊กฮง ออกมาต้อนรับขับสู้ ใบหน้าอิ่มเอิบ ฉาบไปด้วยความสุข เชื้อเชิญให้พวกเรานั่ง แกอาสาจะไปชงกาแฟ เลี้ยงฉลองให้

น้องหมวย แล้วแกก็ ผลุบเข้าไปหลังร้าน นับว่าชงกาแฟ รีอินวัน หรือทูอินทู ครู่เดียวแกก็ตะโกนเรียกน้องหมวย ให้มาช่วยยก

กาแฟ เสริฟพวกเราด้วย น้องหมวย ใส่ถาดยกมา 5 แก้ว เจ๊กฮง ยกมา 4 แก้ว วางบนโต๊ะรวม ๆ กัน เจ๊กฮง ผายมือให้พวกเรา ดื่ม

กาแฟ แต่ตัวแกเอง ไม่ดื่ม แกบอกว่า แกชอบแต่ ชาจีน และห้ามน้องหมวยด้วย ยังเป็นเด็กอยู่ อย่ากินกาแฟ พวกเราก็จิบกาแฟ

พลาง คิดพลาง จนหมดแก้วทุกคน ไม่คิดเลยว่า เจ๊กฮง จะเป็นคนดี มีน้ำใจ ถึงขนาดนี้ แกคงเป็นอย่างนี้มานาน แต่พวกเราไม่เห็น

เอง พวกเรานี่ ช่างโง่เสียนี่กระไร มีคนดี ๆ อย่างนี้ อยู่ใกล้ ๆ ดันไม่เคยมอง มัวแต่มองลูกสาวแก อยู่นั่นแหล่ะ แหมมาเสียคน เมื่อใกล้

แก่นี่ คิดแล้วน้อยใจ ในความตาไม่ถึง ของตัวเอง เมื่อก่อนคิดว่าแก คงจะเป้นคนที่ร้ายกาจ คอยดูหมื่นแต่พวกเรา คิดย้อนถึงบาป

บุญคุณโทษ ที่สมีเอ้ง ได้พูดให้ไว้ อดเสียใจ ในการะทำของตัวเองไม่ได้ อยากจะขอโทษเจ๊กฮง แต่ก็กลัวเสียเหลี่ยมนักเลง

          น้องหมวยนั่งคุยกับพวกเรา เธอพูดถึงชีวิตใหม่ ในหอพัก นักศึกาาแพทย์ มีทั้งผู้ชาย และผู้หญิง แยกกันอยู่ ต่างหอกัน บาง

คนเป็นลูกคนรวย บางคนเป็นลูกคนจน มีกิจกรรมมากมายหลายอย่าง แต่เรียนหนักเลือเกิน โชคดี ที่มีรุ่นพี่ หลายคนช่วยติวให้ ก็ใช่

น่ะสิ น่าตาออกอย่างนั้น รูปร่างออกอย่างนั้น กิริยาท่าทางน่ารักออกอย่างนั้น มันก็ต้องมีบ้างแปล่ะ ที่รุ่นพี่ จะต้องชอบ แต่มีเงื่อนไขว่า

มากหรือน้อยเท่านั้น ไอ้ไม่ชอบเลย น่าจะไม่มี (ภายใน คิดแล้วเสียว แทนพวกเราทั้งเถียงนาจัง) ฟังดูดมันเพลิดเพลิน สำรหับ เด็กจบ

ประชาบาล อย่างพวกเรา แต่เหตุการณ์ กลับเปลี่ยนไป เข้าใจว่า กล้ามเนื้อก้นกบ ของพวกเราทุกคน เริ่มต้องบีบรัดตัว พูดอะไรต่อไป

ไม่ได้มากแล้ว ข้าศึกกำลังโจมตีประตูหลัง บางคน รีบกล่าวบอกล่ำลาน้องหมวย บางคนไม่ได้ลา ทุกคนยิ่งต้องบังคับการใช้กล้าม

เนื้อ บริเวณก้นกบบีบรัดอย่างหนัก แล้วพากันเดินออกจากร้านเจ๊กฮง อย่างรวดเร็ว น้องหมวยมีสีหน้าตกใจ แต่ทว่า เจ๊กฮง เบิกบาน

สุดขีด แววตาเหมือน ประสบความสำเร็จ ครั้งยิ่งใหญ่ พวกเราทั้งกุล่มเดินห่างจากร้านเจ๊กฮง ไม่เกิน สิบวา ก็ต้องโดยลงน้ำกันเป็น

แถว ปล่อยของเสีย ออกมาเต็มลำน้ำ ได้ยินเสียงเจีกฮง แว่วเสียงหัวเราะดังลั่น ก๊าก ๆ มา นัยว่า แกพูด สิบปีไม่สาย เจ๊กฮง นะ เจ๊กฮง

ทิดกล่ำ บอกพวกเราว่า แกวาง  สลอดว่ะ Click

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

แกเอาคืนพวกเรานี่ เจ็บแสบนัก สมแล้วพยัคฆ์เฒ่า สมาชิกขับถ่ายด้วยกัน จนอ่อนเปลี้ย เพลียงแรง ชาวบ้านละแวกนั้น หัวเราะกัน

ท้องคัด ท้องแข็ง ด้วยคุ้นเคยกับพวกเราเป็นอย่างดี และคงรู้เบาะแส พฤติกรรมของพวกเรา บ้างเป็นแน่ กว่าจะกลับถึงบ้าน บ้าน

ใครบ้านมัน ก็แทบแย่ แต่ก่อนจากกัน สมีเอ้ง ตะโกนบอกพวกเราด้วยเสียงอ่อนแรง ให้ไปหาน้ำมะพร้าว Click มาดื่ม พอบรรเทาได้

บ้าง

          เหตุการณ์ผ่านมาอีกเป็นเดือน กลุ่มผับของพวกเรา รู้สึกเข็ดขยาด กับเจ๊กฮง ทิดสุขว่า มันก็น่าจะหายกันนะ เลิกแล้วต่อกัน

มัน ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ ทิดมีบอกว่าขณะนี้มีผู้ชายหนุ่มรูปร่าง สูงโปร่ง ใส่แว่วตา มาส่งน้องหมวยถึงร้านเลย ตอนวันเสาร์ และเย็นวัน

อาทิตย์ก็มารับ ท่าทางเขาสนิทกันดีนะ ร้อยยิ้ม่ของพวกเราจางหายไปจากใบหน้า มันวังเวงหวิว คล้ายลูกโป่ง ที่หลุดลอยไปใน

อากาศ

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

ซึ่งมันไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว มันน้อยเนื้อต่ำใจจริง ๆ แล้วหล่ะ คราวนี้โอกาสและวาสนาของพวกเรา ทำไมต่ำต้อย ถึงเพียงนี้ บุญ

บาปมันมีจริงรึเปล่า เราก็ไปทำบุญทุกวันพระนี่นา ทำตัวเป็นคนดีตลอด อาชีพก็สุจริต ทำงานก็หนัก หรือต้องจมปลัก อยู่กับท้อง

ไร่ท้องนาอย่างนี้ ตลอดชีวิตแล้วก็ตายไปพร้อม กับอาชีพนี้นะเหรอ ดักดานอยู่อย่างนี้นะเหรอ ให้คนอื่นเขาดูถูกดูแคลนอย่างนี้นะ

เหรอ เป็นคนจนนี่มันอาภัยจริง ๆ ใกล้ชิดอยู่กับน้องหมวยตั้งหลายปี พบกันเกือบทุกวัน พวกเรารู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่า มันไม่คู่ควร มัน

เป็นไปไม่ได้ ันเหมือนหมามองเครื่องบิน

 

ไอ้แฉ่งพูด ตาแดงกล่ำ น้ำตาคลอเบ้า ชิชิ ไอ้หรั่งบอก มันจะมากไปแล้ว กูนุ่ ใกล้ชิดน้องหมวย กว่าใคร ๆ ท้ายที่สุด ไม่ใช่หมา

มองเครื่องบิน โว้ย มันไกลไป อย่างกูน่ะ กูสมน้ำหน้าตัวเอง มันเหมือนหมาคาบปลากระป๋อง ได้แต่น้ำลายเปียกฉลาก แกะ

กระป๋องกินเองไม่เป็น ได้แค่คาบ วิ่งเล่น เท่านั้นเอง โอ้ วาสนากู

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

 ว่าแล้วก็ก้มหน้าเช็คน้ำตา ขอน้ำตาลเมาอีกหนึ่งจอก

          สมีเ้ง นิ่งฟังสมาชิกผับบ่นอยู่นาน แกจิบน้ำตาลเมาอย่างคนมีสติ บิปลาหมอ ยางเป็นกับแกล้มนิดหน่อย และกล่าวกับพวก

เราว่า อย่างพวกเอ็งพวกและข้านะหรือจน จนกับรวยมันต่างกันตรงไหนวะ ฉลาดหรือโง่ เอาอะไรเป็นเครื่องวัด เอ็งคิดดูน่ะ เราดื่ม

น้ำตาลเมา นอนเถียงนาลมพัดโชยได้กลิ่นต้นข้าว อาบน้ำ ที่ริมสะ ก่อไฟ แสนจะมีความสุข โดยไม่ต้องเสียตังค์ซักเท่าไหร่เลย ต่าง

จากคนรวย คนต่างชาติ ต้องขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่ และก็นอนโรงแรมที่สร้างบรรยากาศเป็นเถียงนา

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต โรงแรม โฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เชียงใหม่

หรือห้องสวีท ริม ๆ ท้องนา โดยเสียตั้งแต่สองหมื่นบาท จนถึง หนึ่งแสนบาท ต่อคืน

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต โรงแรม แมนดาริน ดาราเทวี

 

          ปีนี้เอ็งอายุเท่าไหร่ ไอ้หมี 35 ใช่ไหม 35 x 365 เท่ากับ 12,775 วัน เอ็งนอนเถียงนาบ้าง กลับไปนอนที่บ้านที่ติดปลายนา

บ้าง หากคิดแบบเศรษฐี คืนละหมื่นบาท ก็เป็นเงิน 127,550,000 บาท ตั้งแต่เอ็งเกิดหน่ะ เป็นเงินกี่ตังค์แล้ว เฉพาะค่าที่พัก นี่ยังไม่

รวม ดินเนอร์ ส่วนข้าวเช้าหน่ะฟรี นะมึง ใครจนใครรวยกันแน่ เขาต้องมาเช่าท้องนานอน คืนละไม่รู้กี่ตังค์ เขาต้องหาทาง เข้าหา

ธรรมชาติ โดยต้องเสียงเงินมากมาย แต่พวกเอ็งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่พวกเขาต้องซื้อ ใครฉลาด ใครโง่ สมีเอ้งชูจอกน้ำตาล

เมา แล้วให้พวกเราชูจอกด้วย เอาจอกมากระทบกัน แล้วส่งเสียงบอก เชี้ย Bottle up ไอหมมีถามว่า มันแปลว่าอะไรว่ะ ไอ่หรั่งบอก

ว่า กระดกหมดแก้ว

          หลายคนทบทวนคำพูดของสมีเอ้ง มีความรู้สึก ผ่อนคลายลงบ้าง ทิดกล่ำพูดว่า มันก็ใช่อย่างงั้นหล่ะ คนเราก็มีหน้าที่ผิดแผก

แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่เวรใช่กรรม อย่างที่เขาสอนผิด ๆ กันมาหรอก ครัวไทยจะไปสู่ครัวโลกอยู่แล้ว ยังมาท้อถอยอะไรกันอยู่เล่า

ไอ้ที่เขาว่ารวย ๆ หน่ะ ข้าเคยไปงานศพเศรษฐี ขายเครื่องดื่มชูกำลัง ในอำเภอ ตอนแกอยู่ แกประหยัด กระเหม็ดกระแหม่ แต่เอ็งเอ้ย

เซลแมนมันไปเต็มงานศพเลยหว่ะ ตาเศรษฐีคนนั้นแก นอนฟังพระสวดในโลงศพ แต่ลูกหลายกำลังเลือกดู โบรชัวร์ของรถยี่ห้อดี ๆ สี

ต่าง ๆ บางคนก็ดูโบรชัวร์ ของคอนโดมิเนียมหรู ที่เซลแมนนำมาให้เลือก มันน่าหัวเราะนะ ตาเศรษฐี แกไม่เข้าใจเลยว่า ไม่มีอะไรเป็น

ของใครจริง ๆ หรอก เป็นเจ้าของจริง ๆ อย่างมากก็ไม่เกินร้อยปี ผู้พันกล่ำหัวเราะ แล้วก็ดื่มน้ำตาลเมาอีกครึ่งจอก สมีเอ้งหน้าแดง ทิด

กล่ำพูดต่อไปว่า คนเราเดี๋ยวนี้คิดผิด ให้ฟังหลวงพ่อพุทธทาสพูดว่า ตัวกู ของกู ท่านพูดถูก ไม่มีอะไรเลย ที่เป็นของเรา

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

          ประเดี๋ยวมันก็กลาย เป็นของคนอื่นไปหมด ชั่วไม่ถึงร้อยปี สมีเอ้งพูด ไอ้กล่ำ ไอ้เพื่อนแท้ เอ็งเข้าใจชีวิตดีนี่หว่า ผู้พันกล่ำ

ตอบว่า ลูกข้าเขาเปิดให้ดู สตีฟ จอบส์ เขาพูดไทย ให้นักศึกษาฝรั่งฟัง

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Steve Jobs พูดไทยให้ฝรั่งฟัง (Click)

 

          ตอนหนึ่งว่า ทุกคนต้องตาย แต่ทุกคนก็ไม่มีใครอยากตาย แม้ตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ แต่ก็ต้องตายเพื่อให้คนใหม่ ก้าวเข้า

มาแนที่ และคนใหม่ก็กลายเป้นคนเก่า ก็ต้องตายต่อไปเรื่อย ๆ แต่ข้ามีคำถามหว่ะ ก็ถ้ารู้กันอย่างนี้ จะไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน

ทำไมวะ ไอ้สมีเอ้ง กูก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ แต่มันไม่มีใครพูกจริงสื่อต่าง ๆ มันหลอกทั้งนั้น มันหลอกให้พวกเราบริโภค ท้ายที่สุดเรา

ต้องมาคิดกันว่า ความสุขคืออะไรต่างหาก เถียงนาของเราไม่ว่าไทย ว่าเทศ ก็ไปเข้าพักกันวันละนับเป็นหมื่นบาท ข้าไม่เข้าใจ

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

          สมีเอ้ง หัวเราะ ก็คือความอยากไงหล่ะ บางทีพวกเราอยากสลาย อย่างพวกเขา แต่เขากลับอยากลำบากอย่างพวกเรา เช่น

การไปท่องเที่ยวแบบแบกเป้ ค่ำไหนนอนนั่นที่เขาเรียก Jungle Tours หนักหนาสาหัส กว่าเราเยอะ บางพวกไปตีกอล์ฟ เพื่อจะอยู่

ท่ามกลางธรรมชาติ แต่พวกเรา เวลาถอนกล้า เราก็ีวงสวิงเหมือนกัน ตอนที่เราเอากล้าตีกับท่อนขา ว่าตีอย่างไร ถึงจะเอาดินออก

จาก รากของต้นข้าว ได้เยอะ ๆ ไม่ต้องเข้าฟิตเนส ไม่ต้องออกรอบตีกอล์ฟ ไม่ต้องไดเอท ไม่ต้องเสียตังค์ ใครโง่ ใครฉลาด

 

่ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

          ข้าว่า เดี๋วยก่อน ไอ้หรั่งเติมน้ำตาลเมาดิ จนหรือรวย สุขหรือทุกข์ มันขึ้นอยู่กับมุมมอง ของแต่ละคน แต่ถ้าให้ข้าเลือกนะ ข้า

ว่า อยู่อย่างไม่เบียดเบียนกัน อยู่ท่ามกลางความสงบของธรรมชาติ อย่างที่พระพุทธเจ้า ท่านตรัสถึง ความสุขของคฤหัส Click และ

อย่างที่ ท่านพุทธทาส ท่านเคยกล่าวว่า หาสุข ได้จากทุกข์ ไปความหมายกันเอาเอง อย่างต่ำ ข้าขอขอบกับพวกเองว่า จงมอง

โลกในแง่บอก จงมองโลกในแง่ ดีเสมอ จำไว้เด้อ

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

ชีวิตมันดำเนินไปตามกลไกของมัน แล้วแต่เราจะกำหนด

 

          จุดมุ่งหมายของชีวิตเราเอง เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือก ดำรงชีวิตแบบใด เลือกได้ ต้องมีศิลปะ การดำรงชีวิตที่ดี ไม่อ่อนโ่ลก

          การศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ทาง เรียนในสถานศึกษา เรียนจากประสอบการณ์ตรง มิได้หมายความว่า จบดีกรีสูง ๆ จะรู้ไป

หมด ข้าไม่เคยเห็นแม่ควายพูดกับลูกควาย เลยว่ะ มันเพียงแต่ใช้ภาษากาย และมันก็กินหญ้าให้ลูกควายดู อยู่ให้ ลูกควายเห็น

หรือที่เรียกว่า "ทำให้ดู อยู่ให้เห็น" การศึกษไม่มีที่สิ้นสุด เราต้องเรียนรู้ อยู่ตลอดชีวิต ไม่แต่เฉพาะชีวิตในวัยเรียนเท่านั้น

          การเรียนทำให้เรามีความรู้ การปฏิบัติหรือทำจริง ทำให้เรามี ประสอบการซึ่งเป็นความรู้ผ่านการปฎิบัติจริง ต้องควบคู่กัน

ไป ขาดสิ่งหนึ่ง สิ่งใด เสียมิได้ ต้องเฝ้าสังเกตุ ดูความเปลี่ยนแปลง ของสิ่งรอบข้างตัวเรา พร้อมทั้งปฎิบัติไปด้วย หากมีความรู้ แต่

ไม่ได้ปฎิบัติ หรือปฎิบัติไม่ได้  เป็นนักวิชาการบนหอคอย ก็เสียการเปล่า และสังเกตุดู ภายในจิตใจขงตัวเราด้วย รู้จักตั้งสติให้มั่น

พยายามปรับปรุง ทุกอย่างในวันนี้ให้ดี กว่าเมื่อวาน

          แค่นี้ก็พอแล้วดึกแล้ว ข้าก็เมาแล้ ไปศึกษาต่อกันเอง

                                  อวสาน